ยึดยาบ้า 113 ล้านเม็ด!! แม่ทัพภาคที่ 3 เชียงรายสกัดยาเสพติดช่วงปีใหม่ ไอซ์เฉียด 1,500 กก. เฮโรอีน 140 กก.
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.61 พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวผลการปฏิบัติการการบูรณาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ที่สโมสรค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ตามนโยบายของรัฐบาลในการสกัดกั้นยาเสพติดภายใน 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าหลังปฏิบัติการมาได้ 56 วัน เฉพาะพื้นที่ชายแดนสามารถตรวจยึดยาบ้าได้จำนวน 29,593,069 เม็ด ยาไอซ์ 607.50 กิโลกรัม เฮโรอีน 71.27 กิโลกรัม พื้นที่ตอนในยึดยาบ้าได้จำนวน 88,062,694 เม็ด ยาไอซ์ 885.87 กิโลกรัม เฮโรอีน 70.03 กิโลกรัม รวมผลการปฏิบัติการยึดยาบ้าได้จำนวนทั้งสิ้น 113,655,762 เม็ด ยาไอซ์ 1,493.37 กิโลกรัม และเฮโรอีน 140.30 กิโลกรัม รวมมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท

พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3
แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า จากปฏิบัติการเกือบ 2 เดือน ทำให้ทราบว่าทุกฝ่ายยังต้องทำงานกันหนักเพื่อสกัดกั้นยาเสพติดให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะเมื่อแหล่งผลิตยังอยู่ติดกับภาคเหนือ จึงเป็นเรื่องที่เราหลีกเลี่ยงไม่พ้นและพฤติกรรมของขบวนการค้ายาเสพติดก็ปรับไปตามสถานการณ์ โดยจากเดิมใช้การขนกระเป๋าเป้ใบละ 100,000 – 200,000 เม็ด น้ำหนัก 10-20 กิโลกรัม ใช้คน 5-7 คน ขนเข้ามาได้กว่า 1,000,000 เม็ด ก็หันมาใช้รถยนต์ที่ขนได้ครั้งละมากๆ ตามที่ปรากฎให้เห็นการตรวจจับได้ที่ผ่านมา สาเหตุเพราะเส้นทางคมนาคมสะดวกมากขึ้น เชื่อมโยงไปถึงเกือบทุกจุดและในประเทศเพื่อนบ้านก็มีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมถึงกันได้
ส่วนตลาดพบว่านอกจากประเทศไทยแล้วประเทศอื่นๆ ที่อยู่ใต้ลงไปก็มีการสั่งซื้อยาเสพติดด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปรับวิธีการทำงานเพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ และในอีก 1-2 วันนี้ทางแม่ทัพภาค3เหลี่ยม ประเทศเมียนมา จะเดินทางมาเยือนพื้นที่ภาคเหนือของไทยและจะพักอยู่ในพื้นที่ราว 1-2 วัน ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 3 ก็จะได้หารือในหลายๆ เรื่อง หนึ่งในเรื่องนั้นคือการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดร่วมกัน รวมถึงการขอส่งตัวผู้หลบหนีคดีจากฝั่งไทยเข้าไปยังประเทศเมียนมาด้วย
นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งจะมีผู้คนเดินทางไปเยือนชายแดน โดยเฉพาะ จ.เชียงรายเป็นจำนวนมาก และกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดจะฉวยโอกาสลักลอบลำเลียงยาเสพติดปะปนมา รวมถึงกลุ่มมือใหม่ที่อาศัยความพลุกพล่านดังกล่าว ทำให้ตนมีแนวทางจะนำภาพใบใหญ่ของผู้ที่ถูกจับกุมที่ผ่านมา ไปติดเอาไว้ตามจุดสำคัญๆ ต่างๆ เช่น ด่านตรวจ ตามด่านพรมแดนทั้งขาเข้าและขาออก ที่มีรถผ่านไปมา เพื่อให้ผู้ที่คิดจะกระทำผิดเกิดความเกรงกลัวต่อการกระทำความผิด
ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ทหารจะวางกำลังตามจุดสำคัญของชายแดนอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะด้านกองกำลังผาเมืองที่มีช่องทางเข้ามาได้หลายจุด ที่ใกล้แหล่งผลิตยาเสพติด
ด้านตำรวจก็จะตั้งด่านตรวจถาวรทั่วภาค 5 รวมเขต 8 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 74 จุด และตั้งด่านชั่วคราวกระจายเป็นใยแมงมุมอีก 108 จุด ติดตั้งกล้องและอุโมงค์เอ๊กซเรย์ตามจุดสำคัญหลายจุด ขณะที่ทางฝ่ายปกครอง จ.เชียงราย ได้ฟื้นฟูการปฏิบัติของชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 10 คน โดยจัดให้มีเวรยามทำให้ในปัจจุบันจะพบเห็นการประจำการของชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านที่คอยแจ้งสิ่งผิดปรกติหากพบคนแปลกหน้า
ขณะที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศป.ปส.ชน.) จะปฏิบัติการพื้นที่รอยต่อใน จ.เชียงราย 14 อำเภอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน 2 อำเภอและเชียงใหม่ 5 อำเภอ เพื่อสกัดกั้นหากเล็ดลอดมาจากชายแดน
ส่วนทางตำรวจปราบยาเสพติด ปส.2 จะเน้นปราบปรามยาเสพติดโดยทำลายทั้งเครือข่าย ซึ่งที่ผ่านมาสามารถทำลายเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ไปแล้วจำนวน 2 เครือข่ายและกำลังปฏิบัติอยู่อีก 2 เครือข่าย ยึดทรัพย์ได้จำนวน 17 ล้านบาทและกำลังดำเนินการอีกประมาณ 50 ล้านบาทเศษ ซึ่งยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะปฏิบัติการอย่างเฉียบขาด กรณีที่เป็นเครือข่าย เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ หรือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ อย่างเฉียบขาด