เมืองแปะ โอทอป @ บุรีรัมย์
“เมืองแปะ โอทอป @ บุรีรัมย์” ด้านหน้าอาคารจัดเป็นซุ้มอุทยานเมืองแปะ พร้อมกันนี้ท่านยังจะได้เห็นต้นแปะ ที่เป็นตำนานการตั้งเมืองของจังหวัดบุรีรัมย์
อาคารหลังนี้นอกจากจะสวยเด่นแล้วยังมีสินค้า OTOP ที่มีคุณภาพจากชุมชนต่าง ๆ ในบุรีรัมย์คัดสรรไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือ นอกจากนี้ข้าง ๆ กัน ยังมีดอกไม้ธูปเทียนจำหน่ายพร้อมทั้งเครื่องสักการะพระบรมราชนุสาวรีย์ ถัดกับตัวอาการยังมีร้านกาแฟจำหน่าย สำหรับนั่งจิบชมทัศนียภาพอีกด้วย
GPS: 14.9865271,103.0346845
- You must login to post comments
- You must login to post comments
- You must login to post comments
- You must login to post comments
- You must login to post comments
สนามไอโมบาย สเตเดียม หรือปราสาทสายฟ้า ยกระดับบุรีรัมย์สู่เมืองกีฬาระดับโลก ด้วยสนามฟุตบอลมาตรฐานฟีฟ่าแห่งแรกและแห่งเดียวในไทย (ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โทร. 09-3303-2557)
การเข้าชมสนาม มี 11 รอบ
ภาคเช้า
รอบที่ 1 เวลา 09.30 น.
รอบที่ 2 เวลา 10.00 น.
รอบที่ 3 เวลา 10.30 น.
รอบที่ 4 เวลา 11.00 น.
รอบที่ 5 เวลา 11.30 น.
พักกลางวัน เวลา 12.00 – 13.00 น.
ภาคบ่าย
รอบที่ 6 เวลา 13.00 น.
รอบที่ 7 เวลา 13.30 น.
รอบที่ 8 เวลา 14.00 น.
รอบที่ 9 เวลา 14.30 น.
รอบที่ 10 เวลา 15.00 น.
รอบที่ 11 เวลา 15.30 น.
เข้าสนามฟรี ลงชื่อที่โต๊ะลงทะเบียน
นิวไอโมบายสเตเดียม หรือที่นิยมเรียกกันว่า ไอ-โมบาย สเตเดียม หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า ธันเดอร์ คาสเซิล สเตเดียม (อังกฤษ: i-mobile Stadium, Thunder Castle Stadium, Buriram Stadium) เป็นสนามกีฬาที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตั้งอยู่ที่ตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ สนามแห่งนี้มีความจุ 24,000 ที่นั่ง (ในปี พ.ศ. 2557 ได้ต่อเติมเป็น 32,600 ที่นั่ง) โครงสร้างประกอบด้วยเหล็กและไฟเบอร์ ซึ่งสร้างด้วยงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท โดยเป็นเงินสนับสนุนของไอ-โมบายและบางส่วนของนายเนวิน ชิดชอบ และจัดเป็นสนามฟุตบอลที่ได้มาตรฐานแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีลู่วิ่งคั่นสนามและผ่านมาตรฐานฟีฟ่า , เอเอฟซี และ เอเอฟเอฟ และยังผ่านมาตรฐานระดับเอคลาสสเตเดียมจากเอเอฟซี และยังผ่านมาตรฐานระดับเวิลด์คลาสจากฟีฟ่า และยังได้บันทึกลงกินเนสบุ๊คว่าเป็นสนามฟุตบอลในระดับฟีฟ่าแห่งเดียวในโลกที่ใช้เวลาก่อสร้างน้อยที่สุดในโลกคือ 256 วัน
สนามนี้มีทั้งหมด 4 ชั้น โดยชั้นที่ 1 เป็น สำนักงานห้องแถลงข่าว,ห้องสื่อมวลชน,ร้ายขายสินค้าที่ระลึก,ห้องนักกีฬาทีมเหย้า-เยือน,ห้องพักผู้ตัดสิน,ห้องปฐมพยาบาล และ ห้องประชุม ชั้นที่ 2 จะเป็นห้องจัดเลี้ยงใหญ่จำนวน 400 ที่ นั่ง ชั้นที่ 3 เป็น ห้องวีไอพี 6 ห้อง และ ห้องจัดเลี้ยง 1 ห้อง และชั้นที่ 4 มี ห้องวีไอพีจำนวน 15 ห้อง สนามแห่งนี้ยังมีการติดตั้งไฟส่องสว่างของฟิลิปส์อย่างมาตรฐานจะมีความสว่างของไฟอยู่ที่ 1,500 ลักซ์ โดยในส่วนอัฒจรรย์ฝั่งกองเชียร์นั้นมีเก้าอี้ที่นั่งเชียร์เป็นสีน้ำเงินเกือบหมดแต่จะใช้เก้าอี้สีขาวตรงที่มีคำว่า ธันเดอร์คาสเซิล และ บุรีรัมย์มีหัวหน้ากองเชียร์คือ นางกรุณา ชิดชอบ เป็นแกนนำหลักในการเชียร์
สนาม ไอ-โมบาย สเตเดียม เคยใช้เป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตและกิจกรรมรื่นเริงครั้งใหญ่ในเทศกาลสงกรานต์ในปี พ.ศ. 2555 โดยการจัดของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร โดยมีศิลปินนักร้องมากมาย อาทิ โซะระ อะโอะอิ, เอ็นเอส ยุน จีน, ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล, นูโว, ไมโคร, ปกรณ์ ลัม, บอดี้แสลม, คาราบาว, ลาบานูน, บิ๊กแอส, โลโซ เป็นต้น
ความศักดิ์สิทธิ์ที่ร้อยศรัทธาของชาวบุรีรัมย์เป็นหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ ถ.จิระ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
สร้างขึ้นเพื่อเป็นหลักของบ้านเมือง แต่เดิมศาลที่เป็นที่ตั้งของเสาหลักเมืองเป็นอาคารไม้ บริเวณรอบศาลเจ้าพ่อหลักเมืองมีเนื้อที่ประมาณหนึ่งส่วนสามของบริเวณปัจจุบัน เป็นสถานที่เคารพสักการะของชาวบุรีรัมย์ เป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวพึ่งพาทางจิตใจของทุกคนได้มากราบไหว้สักการะบูชาของชาวเมืองบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียง การก่อสร้างเป็นรูปแบบศิลปกรรมขอมโบราณ มีความเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมท้องถิ่นไว้ด้วยดี
วนอุทยานเขากระโดง ห่างจากสนามฟุตบอล สนามแข่งรถบุรีรัมย์ ประมาณ 15 นาที
จากภูเขาไฟที่นอนหลับใหลสู่การเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ตั้งอยู่ที่บ้านน้ำซับ ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว มีปากปล่องทะลุเห็นได้ชัดเจน รอบบริเวณแวดล้อมด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าขนาดเล็ก โดยเฉพาะนกนานาชนิด บนเขากระโดงยังมีโบราณสถานสมัยขอม รอยพระพุทธบาทจำลอง และพระพุทธรูปขนาดใหญ่ เป็นที่เคารพสักการะของคนในท้องถิ่น นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมทิวทัศน์ของตัวเมืองบุรีรัมย์ และไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคล ป่าเขากระโดงมีพื้นที่ 6,212 ไร่ กรมป่าไม้ได้ประกาศให้เป็นวนอุทยานเขากระโดงเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม (วันปิยะมหาราช) พ.ศ. 2521 ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสำนักงานป่าไม้เขตนครราชสีมา
บ้านน้ำซับ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โทร. 0-4463-7349
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง หรือ ปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นหนึ่งในปราสาทหินในกลุ่มราชมรรคา ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 (บ้านดอนหนองแหน) ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ลงมาทางทิศใต้ประมาณ 77 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยโบราณสถานสำคัญ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว สูงประมาณ 200 เมตรจากพื้นราบ (ประมาณ 350 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) คำว่า พนมรุ้ง นั้น มาจากภาษาเขมร คำว่า วนํรุง แปลว่า ภูเขาใหญ่
ปัจจุบัน ปราสาทหินพนมรุ้งกำลังอยู่ในเกณฑ์กำลังพิจารณาเป็นมรดกโลก เช่นเดียวกับ ปราสาทหินในกลุ่มราชมรรคา ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นหนึ่งในปราสาทหินขอมของไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ และถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์ รวมถึงเป็นภาพพื้นหลังตราสัญลักษณ์ของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอีกด้วย
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ ปราสาทบนยอดภูเขาไฟที่สวยงามที่สุด กับปรากฏการณ์มหัศจรรย์ของแสงตะวันสาดส่องลอด 15 ช่องประตู (อยู่ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ลงมาทางทิศใต้ประมาณ 77 กิโลเมตร สอบถามเพิ่มเติมที่ โทร.0-4466-6251, 0-4466-6252)
อ่าง เก็บน้ำทุ่งกระเต็น ตั้งอยู่หน้าองค์การบริหารส่วนตำบลเย้ยปราสาท ระยะห่างระหว่างขอบสระถึงเกาะกลารง 250 เมตร เนื้อที่ 2450 ไร่ หาด ปราสาททอง ยังเหมาะแก่การปั่นจักรยานรอบ ๆ อ่างเก็บน้ำ โดยรวมของระยะทางทั้งหมด เกือบ 10 กิโลเมตร ที่พิเศษกว่านั้น ยังเป็นสถานที่ฝึกซ้อมกีฬาทางน้ำ เช่นเจ็ทสกี ระยะทางฝึกซ้อมและการแข่งขัน 9.3 กิโลเมตร
การเดินทาง
ทางแยกต่างระดับ อำเภอสีคิ้ว เลี้ยวมาทางอำเภอโชคชัย ผ่านอำเภอหนองบุญมาก ถึงสี่แยกอำเภอหนองกี่ จากนั้นเลี้่ยวซ้ายประมาณ 3 กิโลเมตร ท่านก็จะถึงหาดประสาททอง แหล่งเช็คอินแห่งใหม่ ของพี่น้องชาวบุรีรัมย์
พิกัด GPS: 14.688719,102.5348
บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต (อังกฤษ: Buriram International Circuit , ย่อ: BRIC) หรือ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (ชื่อตามบริษัทเบียร์ช้าง ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของสนามในปัจจุบัน) เป็นสนามแข่งรถมาตรฐานสมาพันธ์รถยนต์นานาชาติ (FIA) ในประเทศไทย ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของนิวไอโมบายสเตเดียม ตำบลอิสาณ จังหวัดบุรีรัมย์
พื้นที่โดยรวมของสนามประมาณ 700 กว่าไร่ ความยาวสนาม 4.554 กิโลเมตร โค้งของสนามทั้งหมด 12 โค้ง 126 องศาคือมุมสุดท้ายของสนาม ความเร็วสูงสุดที่สามารถเร่งได้ในทางตรงคือ 315 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งทางตรงมีความยาวเกือบ 1 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นจุดไฮไลต์ของสนามช้างที่สยบความเร็วของนักแข่งหลายท่านมาแล้ว ผู้ชมบนแกรนด์สแตนด์สามารถมองเห็นภาพการแข่งขันทุกโตค้งของสนามได้อย่าชัดเจน 180 องศา นับเป็นสนามเดียวในโลกที่สามารถทำได้
250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คือความเร็วที่สามารถเร่งได้ ในขณะเข้าโค้งที่ 3 นับเป็นสนามที่มีโค้งท้าทายที่สุดแหน่งหนึ่งในโลก ปริมาณความจุที่สนามสามารถรับได้คือ 50,000 คน และ 1,000,000 คน ที่สนามแห่งนี้สามารถรองรับได้ในเป็นอย่างต่ำในแต่ละปี
สนามช้างได้ออกแบบมาให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันได้ถึง 5 รูปแบบ ประกอบไปด้วย Motro GP, F3, TG1, TG2 และ GT3
ในวันที่ 24 กันยายน 2557 สนามช้างได้รับการรับรองจากสมาพันธ์รถยนต์นานาชาติ ว่าเป็นสนามแข่งรถระดับมาตรฐาน เอฟไอเอ เกรด 1 (FIA Grade 1) ซึ่งเป็นระดับสนามที่อนุญาตให้ใช้จัดการแข่งขันรถสูตรหนึ่ง (ฟอร์มูลาวัน) ได้
ในวันที่ 7 ตุลาคม 2557 สนามช้างได้รับการรับรองจากสมาพันธ์จักรยานยนต์นานาชาติ (FIM) ว่าเป็นสนามแข่งรถระดับมาตรฐาน เอฟไอเอ็ม เกรด เอ (FIM Grade A) ซึ่งเป็นระดับสนามที่อนุญาตให้ใช้จัดการแข่งขันโมโตจีพีได้[2]
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2557 กิจกรรม “พัฒนาเมืองบุรีรัมย์ สู่เมืองกีฬามาตรฐานโลก” นายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษาโครงการสนามแข่งรถช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ร่วมกับหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์จัดขึ้น เพื่อเป็นการปลุกให้ชาวบุรีรัมย์ตื่นตัวกับการลงทุนทำธุรกิจ และร่วมกันพัฒนาเมืองบุรีรัมย์สู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก พร้อมทั้งประกาศยกระดับเมืองบุรีรัมย์สู่การเป็นมหานครแห่งกีฬาระดับโลก ทั้งนี้ นายเนวินได้เปิดให้ชาวบุรีรัมย์เข้าชมสนามแข่งรถระดับโลกมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท แห่งแรกและแห่งเดียวในไทย ซึ่งมีกำหนดการเปิดสนามแข่งขันอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557
เครดิตภาพประกอบบางส่วน Bric Media
ลุงเนใจดี ให้นำรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์มาจอดโชว์ เพื่อให้ทุกท่านสามารถถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกัน รถแต่ละคันไม่ธรรมดาจริงๆ ตั้งอยู่ด้านหน้าฝั่งขวา ของโครงการ บุรีรัมย์คาสเซิล
อยู่ภายในโครงการ บุรีรัมย์ คาสเซิล “มหาศิวลึงค์” ตั้งอยู่ภายในสวน “สวนศิวะ12” โดย มหาศิวลึงค์ ทำจากหินทราย สูงกว่า 9 เมตร ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก รายรอบด้วยแผ่นศิลาหินทราย “กามาสูตร” ซึ่งเปรียบดั่งจุดกำเนิดแห่งจักรวาล พร้อมเส้นทางวิ่งออกกำลังกายโดยรอบ ออกแบบไว้เพื่อให้ ชาวบุรีรัมย์ และนักท่องเที่ยวมาชื่นชมความสวยงาม และพักผ่อนหย่อนใจ
เป็นแหล่งอารยธรรมใหม่…ที่รวมหัวใจของบุรีรัมย์ไว้..ที่นี่ ที่เดียว ที่รวมความต้องการให้กับทุกคนได้ ไม่ว่าจะเป็นชาวบุรีรัมย์ เพื่อนพี่น้องจากจังหวัดใกล้เคียง นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ
- มีปราสาทพนมรุ้งจำลอง เป็นจุด landmark
- มีสวนหินและสวนตะบองเพชรขนาดใหญ่
- แบ่งส่วน Community mall โดยจัดโซน ดังนี้
- ร้านอาหาร
- Shopping เสื้อผ้า,แฟชั่น,ของที่ระลึก,motor sport Apprel
- Kidzone โรงเรียนพิเศษ Playgroud, SPA, Beauty
- Service,It, Bank(SCB), Ticket การเดินทาง
- Food court ,ลานกิจกรรม
- Night life
บุรีรัมย์ ศิลาชัยโกคาร์ท สนามโกคาร์ท แห่งแรก และแห่งเดียว ของบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากสนามนิวไอ-โมบาย เพียงหนึ่งกิโลเมตร ตรงข้ามโชว์รูมรถบิ๊กไบด์ดูคาติ สนามแห่งนี้นับได้ว่าสวยและเรียบมาก อุปกรณ์บันเทิงจัดเต็ม แถมรอบข้างยังมีร้านอาหารและเครื่องดื่มให้บริการพร้อมสรรพ ด้วยพื้นที่กว่า 4 ไร่ ความยาวรอบประมาณ 580 เมตร
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อ: ศิลาชัยโกคาร์ท
รูปแบบรถโกคาร์ท: เดี่ยว และ คู่ ขนาด 270cc
ค่าบริการ: โกคาร์ทเดี่ยว ราคา 4 นาที 200 บาท/ รถโกคาร์ท 2 ที่นั่ง (สีชมพู) 4 นาที 250 บาท
เวลาทำการ: เปิดบริการ ทุกวัน ตั้งแต่ 10.00น. 19.00น.
โทร: 083 888 7237 คุณต้น”
GPS: 14.968162,103.100563
Facebook: https://www.facebook.com/BuriramSilachaiGoKart
ชื่อสถานที่: สวนน้ำเนรมิตบุรีรัมย์
พิกัด: บ้านโกรกขี้หนู (ตรงสี่แยกทางไปวัดป่าแสงประทีบ) 88 หมู่ 3 เทศบาลเมืองชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์.
อัตราค่าบริการสวนน้ำ เด็ก 80 บ. – ผู้ใหญ่ 120 บ. เด็กส่วนสูงต่ำกว่า 90 ซม. เข้าฟรี
บริการเช่าชุดว่ายน้ำ – เด็กเล็ก 40 บ. – เด็กโต 60 บ.
ระยะเวลาในการเล่น: ไม่จำกัดเวลาในการเล่นน้ำ จ่ายครั้งเดียวจบ เล่นเครื่องเล่นบ้านลม ได้ทุกชิ้น บริการฟรี เสื้อชูชีพ สำหรับเด็กเล็ก มีซุ้มให้นั่งพักผ่อน มีอาหารบริการ
กติกาในการแต่งกาย
เด็ก: สวมชุดว่ายน้ำ สวมชูชีพเพื่อความปลอดภัย
ผู้ใหญ่ สวมชุดว่ายน้ำ หรือ กางเกงผ้า ผ้าร่ม เสื้อยืด โดยที่ไม่มีซิป หรือตะขอขีดข่วน
เวลาเปิด- ปิด: 10.00 – 20.00 น.
ข้อจำกัด: ชุดที่ลงเล่นได้ คือ ชุดที่เป็นผ้าล้วน ห้ามมีซิป กระดุม พลาสติก หรือของแข็งมีคม อย่างอื่น
เบอร์โทร: 0877781343
GPS: 15.041301,103.086089
เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองบุรีรัมย์มาแต่โบราณ มีประวัติเล่าว่าสมัยกรุงธนบุรี เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก นำทัพไปปราบเจ้าเมืองนางรอง ซึ่งเป็นกบฏ และได้หยุดพักทัพที่บริเวณนี้ ซึ่งมีสระน้ำขนาดใหญ่แห่ง หนึ่ง ปัจจุบันเชื่อกันว่าเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่ในวัดกลางบุรีรัมย์ และทางราชการได้มีประกาศยกวัด กลางบุรีรัมย์เป็นพระอารามหลวง แห่งแรกของบุรีรัมย์เมื่อปี พ.ศ. 2533
คอมมิวนิตี้มอลล์แห่งใหม่ของจังหวัดบุรีรัมย์ “Lively Market Buriram” เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนบุรีรัมย์ แต่ยังแฝงความเป็นตัวของคนต่างจังหวัด รอบๆตลาดเราประดับไปด้วยตู้คอนเทนเนอร์ นับเป็นปฎิมากรรมที่แปลกตาไปอีกแบบที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในจังหวัดบุรีรัมย์ นอกจากนั้นเรายังเพิ่มความร่มรื่นด้วยการปลูกต้นไม้รอบ ๆ โครงการเพื่อความร่มรื่นอีกด้วย
ภายใน Lively Market Buriram แบ่งโซนประกอบไปด้วย
การตกแต่งของตลาดและการวาง Function เป็นการผสมระหว่างแนวคิดความเป็น Park ตัดสลับกับสีสันที่สดใสอย่างลงตัว บนพื้นที่ 14 ไร่ พร้อมด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆหมุนเวียนไปทุกๆเดือน และการแสดงตามจุดต่างๆทั่วบริเวณตลาด การวางตำแหน่งร้านค้าจะแบ่งออกเป็น Zone มีทั้งตู้ Container ที่นำมาตกแต่งเป็นร้านค้า และร้านที่เป็นโครงสร้างถาวร โดยแบ่งออก Zone หลักๆคือ
Rainbow park zone
ตกแต่งด้วยพื้นหญ้ากับต้นไม้ขนาดใหญ่กับร้านค้าที่เป็นโครงสร้างถาวร ขายสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้า งานศิลปะ และอาหาร
Warehouse zone
การตกแต่งเป็นแนว Vintage ย้อนยุค สินค้าจะเป็นพวกอาหาร otop กับของทานเล่นง่ายๆคล้ายตลาดสามชุก
Container store zone
เป็นการนำตู้คอนเทนเนอร์มาทำเป็น shop ด้วยสีสันที่สดใส สินค้าเป็นประเภท เบเกอรี่ แกลเลอรี่ ความงาม อาหารหวาน สปา ทำผม
Food court zone
ขายอาหารหนักมื้อหลัก
เวลาเปิด 10.00 – 22.00 น. สำหรับร้านค้าต่างๆ กิจกรรมต่างๆของตลาดจะเริ่มช่วงเย็น 16.00 น. เป็นต้นไป
กิจกรรมต่างๆ ของ Lively Market Buriram ตลาดไลฟ์ลี่ http://www.buriramguru.com/locations/lively-market-buriram/
ผับร้านอาหารที่ทีมงาน Buriramguru.com แนะนำ:
The Grass Bar & Restaurant: http://www.buriramguru.com/food-restaurant/listing/the-grass-bar-at-lively
สวนนกบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ตำบลสะแกซำ อยู่ในบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด กำหนดเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเมื่อปี 2535 จากการสำรวจพบว่าในแต่ละปีมีนกชนิดต่าง ๆ มาอาศัยอยู่โดยรอบจำนวนกว่า 100 ชนิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เมษายนจะมีฝูงนกมาอาศัยอยู่มากเป็นพิเศษ บางชนิดใกล้สูญพันธุ์และหาดูได้ยาก เช่น นกเป็ดหงส์ นกเป็ดก่า และนกกาบบัว ในบริเวณบ้านของคุณสวัสดิ์ คชเสนีย์ ได้จัดทำเป็นสวนนก และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เหมาะสำหรับเที่ยวชมฝูงนกในยามเย็น ทุกวันเวลาประมาณ 17.00-18.00 น. จะมีฝูงนกยางสีขาวนับหมื่นตัวบินกลับรังเป็นภาพที่น่าชมมาก มีบริการรถชมรอบบริเวณ สอบถามข้อมูล โทร. 0 4460 5169
การเดินทาง จากตัวเมืองบุรีรัมย์ไป 12 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 219 (เส้นทางบุรีรัมย์-ประโคนชัย) ถึงสถานีอนามัยบ้านโคกตาลเลี้ยวซ้ายประมาณ 2.5 กิโลเมตร
รูปภาพจาก: wikipedia
ตั้งอยู่ตำบลสะแกซำ บนเนื้อที่ 37 ไร่ จากพื้นที่ห้วยตลาดทั้งหมดกว่า 4,000 ไร่ บริเวณถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ห่างจากตัวเมืองประมาณ 14 กิโลเมตร กำหนดเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเมื่อปี 2535
โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เมษายนจะมีฝูงนกมาอาศัยอยู่มากเป็นพิเศษ บางชนิดใกล้สูญพันธุ์และหาดูได้ยาก เช่น นกอีโก้ง นกคู้ท กาน้ำเล็ก นกนางแอ่น กระสานวล และนกอื่นๆ อีกหลากหลายชนิดที่อพยพเข้ามาอาศัยหากินในพื้นที่ชุ่มน้ำดังกล่าว พร้อมทั้งศึกษาเส้นทางธรรมชาติ และเป็นจุดพักรถแห่งใหม่เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งในจังหวัด
สอบถามข้อมูล โทร. 0 4460 5169
GPS: 14.877371,103.065372
เปิดประสบการณ์ใหม่ของการพักผ่อนจังหวัดบุรีรัมย์ ณ สวนน้ำ Play Park Buriram สวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในบุรีรัมย์ สัมผัสธรรมชาติสวย ๆ บรรยากาศสบาย ๆ แถมยังใช้เป็นสวนน้ำระบบเกลือทำให้มีความสะอาดของน้ำสูง โดย Play Park Buriram แบ่งเป็น 3 โซน ได้แก่ Funny Zone โซนเด็กเล่น สระว่ายน้ำตั้งแต่ 10-60 เซนติเมตร เด็ก ๆ สามมารถคลานเล่นได้ มีเครื่องเล่นสำหรับเด็ก ม่านน้ำ น้ำพุ, Happy Zone เหมาะสำหรับเด็กโต มีสไลเดอร์ 2 ราง ให้เล่นกันสนุกสนาน และ Healthy Zone โซนสปาที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย รักการผ่อนคลาย
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.
ที่อยู่ : เลขที่ 222 ตำบลบ้านยาง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
โทรศัพท์ : 09 0453 5462
FREE WiFi @ Play Park Buriram
วัดป่าเขาน้อย อยู่ในตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ ติดเขตวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง เป็นป่าธรรมชาติร่มรื่น เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่พุทธศาสนิกชนที่สงบเงียบ ภายในวัดป่าเขาน้อย มี “พระบรมธาตุเจดีย์ศรีสุวจคุณานุสรณ์” สร้างขึ้นจากแรงเคารพศรัทธาของศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกฐธาตุ และเป็นเครื่องระลึกถึงพระคุณแห่งหลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ พระสายธรรมยุติและเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ซึ่งมรณภาพเมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๔๕
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน หนองบัวโคก ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 226 บุรีรัมย์-ลำปลายมาศ ที่บ้านหนองตลาดควาย ตำบลหนองบัวโคก อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้อาจารย์ทำนุ วรธงไชย มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ เป็นผู้ก่อตั้งขึ้น ตั้งแต่ปี 2531 เกิดจากแรงบันดาลใจในความรักในวิถีชีวิตชุมชนอีสาน ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณี จึงได้รวมรวมจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านขึ้น และยีงเป็นแหล่งผลิตงานดินเผาหลากหลายรูปแบบ ภายในพิพิธภัณฑ์จะรวมรวมสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆของชาวอีสาน ไม่ว่าจะเป็น เกวียน อุปกรณ์การทำนาสมัยโบราณ กระดูกสัตว์ ภาพวาดต่างๆ หม้อ ไห อุปกรณ์จักรสานประเภทต่างๆ ได้จัดไว้ให้เราได้ดูได้เรียนรู้ได้ศึกษา บรรยากาศร่มรื่นสวยงามเต็มไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด ส่วนโซนด้านหน้ายังทำเป็นร้านอาหารและร้านกาแฟโบราณ หากใครที่ผ่านไปผ่านมาเส้นทางนี้ ลองแวะเยี่ยมชม ไปศึกษาหรือว่าจะแวะไปชิมกาแฟ ตบท้ายด้วยการถ่ายรูปเพื่อเก็บความทรงจำก็ได้นะครับ
Facebook: พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน หนองบัวโคก
ความสูงขององค์พระ สูงประมาณ 14 เมตร 29 เซ็นติเมตร ได้นามว่า สมเด็จพระพุทธ สมณโคดม บรมมศาสดา จะสังเกตุว่าองค์จำลองจะเล็กกว่าพระที่พระพุทธมณฑที่นครประฐฒประมาณ 1 เมตร โดยขณะนี้ในส่วนขององค์พระเสร็จเรียบร้อยแล้วและเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาได้สักการะ
สำหรับบริเวณรอบๆ ด้านล่าง ทางวัดได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นอีกด้วย ด้านหน้าพระทีมองเห็นเป็นลานกว้าง ออกแบบไว้ใช้สำหรับทำพิธีสงฆ์ในวันสำคัญทางพุธทธศาสนา
เป้าหมายในการจัดสร้างองค์พระแห่งนี้ เพื่อให้ประชาชนชาวอีสานที่ไม่สามารถเดินทางไปกราบไว้องค์จริงได้ที่ พุทธมณฑล สามารถกราบไหว้ที่นี่แทน และที่สำคัญเป็นแห่งเดียวแห่งแรกในภาคอีสาน ที่ได้จัดสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่เพื่อให้ชาวพุทธผู้มีจิตศรัทธา ได้ กราบไหว้ของพร เพื่อเป็นศิริมงคล
ข้อมูล: พุทธมณฑลสถาน วัดบ้านตาเสา ต.ตาเสา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์
สอบถามเส้นทางเพิ่มเติม: 044 029 340
Location@15.0975071,103.2832036
นึกถึงบุรีรัมย์ นึกถึง เพลา เพลิน
บริษัท เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท &แอดเวนเจอร์ แคมป์
มีจุดมุ่งหมายหลัก “ ในการพัฒนาผู้เรียนนอกห้องเรียน” ที่จะเสริมสร้างและเติมเต็มความรู้ เพื่อเตรียมตัวให้เด็กในภาคอีสานมีความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการ AEC ในปี พศ. 2558 “เปิดดำเนินการเมื่อ 2 มกราคม 2556 ซึ่งตรงกับวันเด็กแห่งชาติ” เป็นแหล่งพักผ่อน แหล่งเรียนรู้ที่สมบูรณ์แบบ แห่งเดียวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จากประสบการณ์ที่เกิดจากการทำงานด้านการศึกษามาอย่างยาวนาน ได้ก่อให้เกิดเป็นโครงการเพลาเพลิน บูติครีสอร์ทแอนด์ เอ็ดเวนเจอร์แคมป์ ซึ่งเป็นโครงการแรก เป็นแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ให้กับเด็กๆ ซึ่งโครงการเพลาเพลินได้รับการตอบรับอย่างดีจากเด็กๆและบุคคลทั่วไป เราจึงตัดสินใจที่จะเริ่มโครงการที่สองเพื่อพัฒนาและต่อยอดความรู้ทางด้านพันธุ์พืช ศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์โลกให้กับเด็กๆและบุคคลทั่วไปนั่นก็คือ โครงการอุทยานไม้ดอกเพลาเพลินนั่นเอง