สาธารณสุข ยืนยัน ผู้โดยสารคนอื่นๆ ไม่ติดเชื้อจากคนขับแท็กซี่

0

คนขับรถแท็กซี่ที่เป็นผู้ป่วยกรณีแรกที่มีการติดเชื้อในประเทศ ซึ่งในขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว สิ่งที่เจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญลำดับแรก เมื่อพบว่าคนขับแท๊กซี่ผู้ติดเชื้อ คือ ติดตามผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับคนขับแท็กซี่หลังจากที่เขามีอาการป่วย

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากกรณีคนขับแท็กซี่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า มีผู้ที่เข้าข่ายอยู่ในความสูงเสี่ยงสูงจำนวน 13 ราย(ผู้ที่อยู่กับคนขับแท็กซี่ตอนเขามีอาการ) แบ่งเป็น ภรรยา ลูก หลาน รวม 3 คน และคนใกล้ชิดอื่นๆ อีก 10 คน ซึ่งทุกคนถูกเก็บตัวอย่างจากคอไปตรวจแล้ว ผลออกมาว่าเป็นลบ ไม่พบการติดเชื้อ และอยู่ในระหว่างเฝ้าติดตามอาการเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งคนเหล่านี้ยังไม่มีอาการ จึงไม่รับไว้ในสถานพยาบาล มี 13 คน  ทั้งหมดได้เข้าสู่กระบวนการตรวจเชื้อและมีผลเป็นลบ ซึ่งแพทย์ยังคงติดตามอาการและเฝ้าระวังต่อไป

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มอีก 5 คน รวมกับยอดผู้ติดเชื้อที่พบในประเทศไทยจนถึงขณะนี้มี 19 คน แต่ในจำนวน 19 คน มี 7 คน สามารถกลับบ้านได้แล้ว

 ส่วน อีก 12 คนที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในสถานพยาบาล และ ทุกคนมีอาการดีขึ้น สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 คนนั้น เป็นคนจีน 4 คน ทั้งหมดมีประวัติเดินทางมาจากมณฑลหูเป่ย และคนไทย 1 คนซึ่งเป็นผู้ชาย มีอาชีพขับรถแท็กซี่ที่ไม่มีประวัติเดินทางไปประเทศจีน

กระทรวงสาธารณสุขสามารถตรวจพบผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว เพราะได้มีการเฝ้าระวังกลุ่มคนในประเทศที่ทำงานใกล้ชิดกับชาวจีน แม้จะไม่มีประวัติการเดินทางไปจีน รวมทั้งประเทศไทยมีกลไกการเฝ้าระวังในประเทศที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ