สรุปเด็กกินสีเมจิกเข้า ICU เกิดจากอาการซินโดรม ไม่เกี่ยวกับกินสีที่โรงเรียน
วันที่ 26 พ.ย. 64 กรณีนางสาวสุวรรณา เกษไธสง อายุ 37 ปี และนายบัณฑิต ชุ่มสีดา อายุ 52 ปี ชาว ต.หนองบัวโคก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พ่อและแม่น้องแก้ม เด็กหญิง วัย 5 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนบ้านสี่เหลี่ยมใหญ่ ต.หนองบัวโคก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ร้องผ่านสื่อว่าลูกสาวได้กินสีจากปากกาเคมี ในโรงเรียน แล้วป่วยเข้าโรงพยาบาล ต้องเข้าห้อง ICU อาการโคม่า และอยากถามไปยังผู้บริหารโรงเรียน ว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อย่างไร
โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พ.ย. หลังจากพ่อน้องแก้ม ไปรับที่โรงเรียน พบว่ามีสีเปรอะเปื้อน บริเวณปากและลิ้น กลางคืนน้องอาเจียนเป็นสีดำ ต่อมาได้หยุดเรียนอาการมีไข้ สลับกับอาเจียน สุดท้ายวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมาต้องหามส่งโรงพยาบาลเข้าห้อง ICU ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
ความคืบหน้าล่าสุด ดร.สัมนาการณ์ บุญเรือง ศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำกระเช้าของขวัญไปเยี่ยมน้องแก้ม ที่โรงพยาบาลนางรอง อ.นางรอง และสอบถามอาการของน้อง ทราบว่าน้องแก้ม อาการดีขึ้น แพทย์ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว โดย ดร.สัมนาการณ์ กล่าวว่า จากการสอบถามแพทย์ที่รักษาน้อง ทราบว่าอาการป่วยของน้อง ไม่เกี่ยวกับการกินสีจากปากกาเคมี เกิดจากโรคประจำตัวของน้อง เพราะจากการสอบสวนโรคของหมอ พบว่าน้องแก้มอาเจียนเป็นสีดำตามคำบอกเล่าของพ่อแม่ แต่ปากกาเคมี มีเพียงสีน้ำเงินกับสีแดง ส่วนน้องแก้ม สามารถไปเรียนกับเพื่อนตามปกติได้
ด้านแพทย์หญิง พรชลัท อาภรณ์วิริยะวงศ์ กุมารแพทย์ โรงพยาบาลนางรอง กล่าวถึงอาการของน้องแก้มว่า เด็กมีโรคประจำตัวคือปอดบวม และหอบ ที่เกิดจากอาการซินโดรม ของน้อง คือเด็กกลุ่มนี้จะมีปัญหาเรื่องภูมิต้านทานที่ไม่ค่อยดี อาจจะติดเชื้อง่าย โดยเฉพาะเวลามีเสลด จะขากไม่ออก ทำให้ปอดบวม สำหรับเด็กวัยนี้ จะไม่มีวุฒิภาวะที่จะสามารถแยกแยะได้ว่า ของสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่กินได้กับกินไม่ได้ กรณีการป่วยของน้องแก้ม ไม่เกี่ยวกันกับที่กินสีจากปากกาเคมี ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว
ที่มา : ไทยรัฐ