ร้องเอาผิดเหรัญญิกแสบ! ปลอมเอกสารลายเซ็นสวมรอยกู้เงินกองทุนหมู่บ้านมานานกว่า 5 ปี สูญหลายแสน

0

งรอง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมและเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการบริหารงานของกองทุนหมู่บ้าน หลังจากที่นำสมุดบัญชีไปปรับเช็กยอดพบมีการปลอมแปลงเอกสารและลายมือชื่อ กู้เงินกองทุนหมู่บ้านหลายคนรายละหลักหมื่นถึงหลักแสนตั้งแต่ปี 2558 รวมเป็นเงินหลายแสนบาท โดยที่สมาชิกกองทุนหมู่บ้านที่เป็นเจ้าของบัญชีไม่รู้เรื่อง

กระทั่งปี 2562 มีคณะกรรมการกองทุนฯ บางคนแจ้งว่าให้สมาชิกลองนำสมุดบัญชีไปปรับเช็กยอดดูว่ามีความผิดปกติอะไรหรือไม่ จนเรื่องแดงเนื่องจากมีสมาชิกหลายคนยืนยันว่ามีเงินเข้าออกบัญชีเกินกว่ายอดที่ตัวเองขอกู้ เชื่อว่าน่าจะมีการปลอมแปลงเอกสารหรือลายมือชื่อสวมรอยกู้เงินแล้วแอบเบิกถอนเงินไปใช้จ่ายเอง โดยที่สมาชิกไม่รู้เรื่องและไม่ได้ใช้จ่ายเงินดังกล่าวเลย

 

พอไปเค้นถามจึงทราบว่าเหรัญญิกซึ่งเป็นคนดูแลเกี่ยวกับการเงิน เป็นคนปลอมลายเซ็นสวมรอยกู้เงินของสมาชิกฯ ซึ่งตอนแรกเหรัญญิกคนดังกล่าวก็รับปากว่าจะรับผิดชอบยอดหนี้ดังกล่าวเอง กระทั่งผ่านมาจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ทำให้สมาชิกกองทุนฯ ที่ถูกปลอมเอกสารสวมรอยกู้เงินยังมียอดหนี้ค้างบัญชีอยู่ เดือดร้อนหนักกลัวจะต้องรับใช้หนี้เอง เพราะไปแจ้งความตำรวจบอกให้ไปร้องศูนย์ดำรงธรรม แต่พอไปศูนย์ดำรงธรรมก็บอกให้ไปแจ้งความต่อตำรวจ ไม่รู้จะทำยังไงจึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและช่วยเหลือด้วย

นางวันเพ็ญ ชวนกระโทก อายุ 53 ปี เล่าว่า ตนเอง สามี และลูกชายเป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ และเมื่อปี 2558 ตนกับสามี ได้กู้เงินกองทุนหมู่บ้านคนละ 2 หมื่นบาท ลูกชายอีก 25,000 บาท รวมทั้งสามคนเป็นเงิน 75,000 บาท จากนั้นก็พากันเดินทางไปทำงานกรุงเทพฯ เพราะขณะนั้นผู้เป็นพ่อดำรงตำแหน่งเป็นประธานกองทุนฯ ส่วนเหรัญญิกเป็นอดีตลูกสะใภ้ของตนเอง ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจทั้งตน สามีและลูก จึงได้ฝากสมุดบัญชีและบัตร ATM ไว้กับเหรัญญิก เพราะเวลาชำระหนี้ก็จะโอนเงินเข้าบัญชีแล้วให้เหรัญญิกไปกดเงินมาจ่ายกองทุนฯ ที่ผ่านมาก็โอนให้ทุกเดือนแต่ไม่รู้ว่าเหรัญญิกเอาเงินไปจ่ายหนี้กองทุนให้หรือไม่ เพราะทั้งสมุดบัญชี และ ATM อยู่กับเขา แต่ไม่เคยเอะใจ

 

กระทั่งปี 2562 เรื่องเกิดแดงเพราะมีคณะกรรมการฯ บอกว่าให้ไปตรวจเช็กยอดเงินในบัญชีว่าผิดปกติหรือไม่ ก็ตกใจเพราะทั้งตน สามี และลูกชายมียอดเป็นหนี้กองทุนฯ คนละ 75,000 บาททั้งที่กู้จริงแค่ 2 หมื่น ถึงมารู้ทีหลังว่าอดีตลูกสะใภ้ที่เป็นเหรัญญิกปลอมลายเซ็นสวมรอยกู้เงินไปใช้เอง ตอนแรกรับปากจะจ่ายหนี้คืนเอง แต่พอเมื่อปี 2563 พ่อตนซึ่งเป็นประธานกองทุนอยู่ได้เสียชีวิตลง หลังจากนั้นเหรัญญิกก็ไม่ยอมจ่ายแถมท้าให้ฟ้องร้องเลยไม่กลัว ติดคุกก็ยังมีข้าวกิน ตอนนี้ครอบครัวตนเดือดร้อนมาก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย

ด้านนางเปียง ชาวบ้านอีกคน บอกว่า ตนได้กู้เงินกองทุนหมู่บ้านแค่ 8,000 บาท แต่กลับมีเงินเข้า-ออกบัญชีมากกว่า 3 แสนบาท เชื่อว่าถูกเหรัญญิกปลอมเซ็นสวมรอยกู้เงินเหมือนกัน ทุกวันนี้เครียดมากกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะถ้าเขาไม่รับผิดชอบใช้หนี้ดังกล่าวแล้วตนจะมีปัญญาที่ไหนหาเงินไปจ่าย ลำพังเงินจะใช้จ่ายก็ลำบากหาเช้ากินค่ำไปวันๆ

จากนั้นผู้สื่อข่าวพยายามจะติดต่อสัมภาษณ์เหรัญญิกที่ถูกกล่าวหา แต่ยังติดต่อไม่ได้ จึงได้ไปสอบถามนายสวาย เจริญยิ่ง ซึ่งปัจจุบันยังเป็นประธานกองทุนหมู่บ้าน บอกว่า คณะกรรมการจะไม่รู้เรื่องเงิน ส่วนใหญ่ก็แค่เข้าร่วมประชุมเท่านั้น เพราะคนที่จะรู้เรื่องเงินจะเป็นประธาน รองประธาน หรือกรรมการที่ได้รับเลือก และเหรัญญิกที่เป็นคนดำเนินการเรื่องเบิกจ่ายเงิน ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นเพิ่งมารู้ทีหลังตอนที่เขาไปโวยวายกัน ตอนแรกเห็นว่าคนที่เอาเงินไปใช้เขาจะใช้คืนกองทุนเองและต่อมาไม่รู้ทำไมเขาไม่ยอมจ่าย

ที่มา…https://mgronline.com/