แข้งเตะบุรีรัมย์ยันพบปัตตานีเอฟซี จัดหนักจัดเต็มไม่กังวลสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนใต้

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม นายวีรพงค์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ให้สัมภาษณ์ถึงการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างปัตตานีเอฟซีพบกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เรนโบว์ล สเตเดียม อ.เมือง จ.ปัตตานี ในวันเสาร์ที่ 20 ธันวาคมนี้ว่า การเตรียมความพร้อมของทุกฝ่ายมีไปแล้วกว่า 90% โดยเฉพาะบัตรเข้าชมการแข่งขันที่มีแฟนบอลหลายจังหวัดเข้ามาอุดหนุนกันมากมาย ล่าสุด บัตรวีไอพี ราคา 500 บาท จำนวน 200 ที่นั่ง เหลือ 80 ที่นั่ง บัตรราคา 200 บาท ขายล่วงหน้าไปจนเกือบหมดแล้ว และยังเหลือบัตรราคา 100 บาท ที่จะมีการขายที่หน้าสนามในวันแข่งขันด้วย

“ผมติดตามข่าวมาตลอดพบว่าทีมบอลปัตตานีเอฟซีฟิตซ้อมเข้มข้นทุกวัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดก็เช่นกัน นี่กลายเป็นฟุตบอลประเพณีไปแล้ว ที่ชาวปัตตานีภาคภูมิใจอย่างมาก” นายวีรพงค์กล่าว

นายวีรพงค์กล่าวต่อว่า ในปีนี้นอกจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดมาแข่งขันแล้ว ทางเราได้จัดทริปพิเศษเพื่อพาทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดชมเมืองด้วย โดยจะให้เยี่ยมชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องมุสลิมคือมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี จากนั้นไปยังศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ที่ต่างมีประวัติศาสตร์ความเป็นมา ก่อนที่จะส่งนักเตะเข้าสู่สนามกีฬาต่อไป

“ในส่วนของรางวัลที่ทางบุรีรัมย์จะส่งจักรยานยนต์ 2 คัน พร้อมฟุตบอล 200 ลูก มามอบให้กับโรงเรียนพื้นที่และใช้ส่งเสริมการกีฬาในพื้นที่แล้ว ผมเองก็อยากมีส่วนร่วมสร้างความสุขด้วย โดยจะจัดรถจักรยานยนต์ 1 คัน ให้แฟนบอลในสนามได้ลุ้นด้วยพร้อมกับของทีมบุรีรัมย์รวมเป็นจำนวน 3 คัน” ผู้ว่าฯปัตตานีกล่าว และว่า หลังจากแมตช์ใหญ่นี้ผ่านไป พวกเราได้คุยกันทั้ง กอ.รมน.ในการจัดฟุตบอลนัดพิเศษขึ้นมาอีก 1 รายการ จัดให้เป็นรายการฟุตบอลพิเศษในรูปแบบบอลจตุรมิตร เบื้องต้นจะดึงทีมปัตตานี ยะลา นราธิวาส แข่งขันกับทีมชั้นนำในไทยพรีเมียร์ลีกอีก 1 ทีม แข่งขัน 2 วัน วันแรกเตะรอบแรก ส่วนวันที่สองนัดชิงที่สามและนัดชิงชนะเลิศ อาจจะห่างจากนี้ไปสัก 2-3 เดือน

“มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะจัดเกมรายการนี้ และเมื่อไม่กี่วันก่อน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงาน เดินทางมาตรวจราชการที่ จ.ปัตตานี ก็ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ให้ทราบ ทางรัฐมนตรียังสนับสนุนเต็มที่บอกให้จัดทีมอาร์มียูไนเต็ดของกองทัพบกมาร่วมด้วยก็ได้” นายวีรพงค์กล่าว

นายวีรพงค์กล่าวต่อว่า สิ่งเหล่านี้ช่วยมอบความสุขมหาศาล ทุกคนได้เข้ามาชมการแข่งขัน นักบอลบ้านเราจะได้มีโอกาสเจอกับนักเตะระดับทีมชาติด้วย ผมจะพยายามผลักดันส่งเสริมให้มีกิจกรรมแบบนี้บ่อยๆ

“ผมกำลังคิดถึงการส่งเสริมการศึกษาคู่กับการกีฬาด้วย โดยจะใช้เงินจากกองทุนพัฒนากีฬาและการศึกษาของจังหวัดปัตตานี สนับสนุนเด็กที่เป็นนักกีฬาในเรื่องทุนการศึกษาด้วย เมื่อก่อนปัตตานีมีนักกีฬาเก่งๆ มากมาย จึงต้องการรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่” นายวีรพงค์กล่าว

ที่ จ.บุรีรัมย์ การเตรียมความพร้อมของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่สนามฝึกซ้อมข้างสนามนิวไอโมบาย สเตเดียม นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำนักเตะลงฝึกซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมลงฟาดแข้งกับทีมปัตตานี เอฟซี

“กบ” สุเชาว์ นุชนุ่ม กัปตันทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดเผยด้วยว่า เชื่อว่าเกมฟาดแข้งกับปัตตานี เอฟซี จะสนุกอย่างแน่นอน บุรีรัมย์จะเล่นอย่างเต็มที่ ทีมมีความพร้อมเต็มที่ ผู้เล่นหลักส่วนใหญ่อยู่ครบทีม มีเพียงผู้เล่นบางคนที่มีอาการบาดเจ็บ ผู้เล่นทุ่มเทมากในครั้งนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับแฟนบอลชาวใต้ที่จะมาร่วมชมและเชียร์ฟุตบอล พวกเราจะไม่ประมาททีมปัตตานี สำหรับความพร้อมรวมไปถึงความมั่นใจในการรักษาความปลอดภัยไม่ได้หวั่นวิตกอะไร เชื่อมั่นและการดูแลความปลอดภัย และมั่นใจว่าจะสร้างความประทับใจและเกิดมิตรภาพอันดีระหว่างภาคอีสาน-ภาคใต้

ส่วน “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน นักเตะชื่อดังอีกราย กล่าวว่า จะเล่นเต็มที่เพื่อแฟนบอลที่เข้าไปชม ทุกคนทุ่มเทแน่นอนเช่นเดียวกับนักเตะทีมปัตตานี ส่วนการดูแลความปลอดภัยนั้นไม่ได้กังวลอะไร อยากฝากถึงแฟนบอลชาวใต้ทุกท่าน ทั้งแฟนบอลทีมปัตตานีและบุรีรัมย์ให้ไปร่วมเชียร์ให้กำลังใจนักเตะกันในสนามมากๆ

เมื่อ เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 3 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า พล.ต.ชวลิต เรียนแจ้ง ผู้อำนวยการสำนักบังคับใช้กฎหมายและสิทธิมนุษยชน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เชิญตัวแทนกลุ่มภาคประชาสังคมเข้าพูดคุยเพื่อหารูปแบบและวิธีการในการ เดินหน้าพูดคุยเพื่อสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยที่ประชุมจะนำบทเรียนจากการพูดคุยเพื่อสันติภาพครั้งที่ผ่านมามาปรับ เปลี่ยนแนวทางรูปแบบและวิธีการ ให้สามารถลดการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่

ผศ.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้จะเป็นการหาข้อเสนอแนะจากภาคประชาสังคมรวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จะเป็นเวทีที่ฟังเสียงสะท้อนในส่วนของภาคประชาสังคม แนวทางที่ควรจะเดินหน้าต่อไปนั้น มองว่าควรทำตามแนวทางที่เคยทำมา เนื่องจากอยู่ในกรอบของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งสอดคล้องกัน เน้นให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา เป็นเรื่องที่สำคัญในการพูดคุยเพื่อสันติสุข

“สำหรับบทบาทของภาคประชาสังคมกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่ เป็นบทบาทเสริมในการสร้างบรรยากาศ อาจจะมีบางส่วนของภาคประชาสังคมร่วมในกระบวนการพูดคุยเท่าที่จำเป็น ส่วนตัวบุคคลที่จะเข้าร่วมกระบวนการพูดคุยฝ่ายรัฐบาลไทยนั้นยังไม่ทราบเป็นผู้ใดบ้าง เช่นเดียวกันกับฝ่ายตรงข้ามก็ยังไม่ทราบ แต่มีเสียงตอบรับจากกลุ่มพูโลว่าจะเข้าร่วมพูดคุย ส่วนกลุ่มอื่นๆ ยังไม่ตอบรับเข้ามา ทั้งนี้ในส่วนของกระบวนการหลังจากวันนี้ไปจนถึงเวลาพูดคุยคงจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เพราะจะต้องประสานทางฝ่ายมาเลเซียซึ่งเป็นตัวกลางในการประสานงาน” ผศ.ศรีสมภพกล่าว

ผศ.ศรีสมภพกล่าวอีกว่า ส่วนการถอนตัวของนายฮาซัน ตอยิบ แกนนำขบวนการบีอาร์เอ็นนั้น มองว่าอยู่ที่ท่าทีของฝ่ายบีอาร์เอ็นจะตัดสินใจอย่างไร อาจจะเป็นนายฮาซัน ตอยิบ อีกครั้งก็ได้ สำหรับข่าวนายสะแปอิง บาซอ แกนนำระดับองค์กรบีอาร์เอ็น มีความพยายามที่จะเชิญเข้าพูดคุยเพื่อสันติสุขในครั้งนี้ ถ้าเข้ามาร่วมได้ก็จะเป็นผลดี แต่ในเวทีพูดคุยที่ผ่านมา ก็มีความพยายามที่จะเชิญตัวนายสะแปอิงเข้าร่วมพูดคุยมาแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ