ตร.บุรีรัมย์ รวบอดีตสามีบุกฟัน น้ำกรดสาดเมียเก่า ระแวงแอบมีกิ๊ก
12 ก.ย.2565- เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้จับกุมนายจำรัส นาคกระโทก อายุ 47 ปี ชาวตำบลกลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในกระท่อมหลังหนึ่งที่ ต.แสลงพัน อ.ลำปลายมาศ พร้อมอาวุธมีดของกลาง หลังก่อเหตุใช้มีดอีโต้บุกเข้าไปฟันนางเขียว อายุ 56 ปี อดีตภรรยา ภายในบ้านที่บ้านไทรโยงเหนือ ต.กระสัง อ.เมืองบุรีรัมย์ เมื่อเวลาประมาณ 11.40 น. วันที่ 11 ก.ย.65 จนเป็นแผลฉกรรจ์ที่บริเวณหน้าผากเลือดไหลอาบ ทั้งยังใช้น้ำกรดสาดใบหน้าของนางเขียว อดีตภรรยาด้วยเพื่อหวังจะให้เสียโฉม จนนางเขียวบาดเจ็บสาหัสตาซ้ายลืมไม่ได้ปวดแสบปวดร้อนทั้งตัวเพราะฤทธิ์ของน้ำกรด ก่อนที่ญาติจะแจ้งหน่วยกู้ภัย อบต.กระสัง ให้หาส่ง รพ.บุรีรัมย์ ส่วนนายจำรัส อดีตสามีที่ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ก่อนจะถูกตำรวจตามจับได้
จากการสอบถามนายจำรัส อดีตสามีที่ก่อเหตุ อ้างว่า สาเหตุที่ก่อเหตุเพราะทนไม่ได้ที่เห็นอดีตเมียที่เพิ่งเลิกรากันยืนหยอกล้อกับญาติที่มาทำเตียงในห้องนอนให้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ระแคะระคายว่าทั้งคู่แอบเป็นกิ๊กกันอยู่แล้ว ส่วนตัวไม่เชื่อว่าทั้งคู่เป็นแค่ญาติกันเพราะสนิทสนมกันเกินเหตุ ทั้งอ้างว่าไม่ได้เตรียมการจะมาก่อเหตุแต่บังเอิญผ่านมาเห็นภาพบาดจึงเข้าไปก่อเหตุ
ขณะที่นายประจวบ สังขะโห อายุ 58 ปี ญาติที่ถูกกล่าวหาว่าแอบเป็นกิ๊กกับอดีตเมียผู้ก่อเหตุ บอกว่า ตนกับนางเขียวเป็นญาติพี่น้องกัน นามสกุลเดียวกัน ยืนยันว่าไม่เคยเป็นกิ๊กกับนางเขียว ตามที่ผู้ก่อเหตุกล่าวอ้างน่าจะระแวงไปเองมากกว่า ซึ่งก่อนหน้านี้ตนกับนางเขียวไปรับจ้างก่อสร้างที่บ้านเมียฝรั่งด้วยกันซึ่งก็มีเพื่อนบ้านคนอื่นไปด้วย พอนางเขียวเห็นว่ามีเหล็กจากที่ก่อเหตุเหลือ จึงขอมาแล้วจ้างให้ตนเองมาทำเตียงนอนให้
แต่ขณะที่นางเขียวกำลังเข้าไปทำความสะอาดในห้องนอน เพื่อที่ตนจะเอาเตียงเข้าไปประกอบในห้องนอน ซึ่งตอนนั้นลูกสะใภ้และหลานอีก 2 คนก็อยู่ในบ้านด้วย แต่จู่ๆ นายจำรัส อดีตสามีก็ถือมีดอีโต้พรวดพลาดเข้ามากระชากแขนนางเขียว เพื่อให้ออกไปจากบ้านแต่นางเขียว ขัดขืนไม่ยอมไปด้วยนางจำรัส ตอนนั้นตนเห็นท่าไม่ดีจึงตะโกนให้ลูกสะใภ้นางเขียว ออกมาดูและไปขอให้ชาวบ้านมาช่วย แต่นายจำรัส ก็ยังลงมือก่อเหตุใช้มีดฟันและน้ำกรดสาดนางเขียว จนบาดเจ็บก่อนจะขับรถหลบหนีไป จึงรีบแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบและเร่งติดตามตัวอดีตสามีโหด
เบื้องต้นแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และพกพาอาวุธมีดในไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร